ปัจจัยสำคัญในการเลือกใช้สายไฮดรอลิคมีหลายอย่างเช่น

1. พิจารณาแรงดันอัตราการไหลของน้ำมันที่เครื่องจักรระบุไว้.

2. อุณหภูมิของน้ำมันขณะที่เครื่องจักรทำงาน.

3. ชนิดของน้ำมันหรือของเหลวที่ใช้ในเครื่องจักรแต่ละประเภท.

สายไฮดรอลิคเปรียบเสมือนสายเลือดในเครื่องจักรทุกชนิดที่ใช้น้ำมันเป็นตัวขับเคลื่อน ดังนั้นหากสายไฮดรอลิคแตก,ซึม, หรือรั่ว ย่อมส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานและความเสียหายต่อชิ้นส่วนอะหลั่ยต่างๆในเครื่องจักร

สายไฮดรอลิคมีลวดเหล็กเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการรับแรงดัน ฉะนั้นจำนวนชั้นของลวดจะเป็นตัวกำหนดความสามารถในการรับแรงดัน เช่นสายไฮดรอลิคลวด 1ชั้นจะสามารถรับแรงดันได้น้อยกว่าสายลวด 2 ชั้น และสายไฮดรอลิคลวด 2 ชั้นสามารถรับแรงดันได้น้อยกว่าสายลวด 4 และ 6 ชั้นเป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม จำนวนลวดที่มากขึ้นก็จะมีผลต่ออัตราการโค้งงอของสายไฮดรอลิค การให้ตัวของสายจะน้อยลงตามจำนวนลวดที่มากขึ้น

สายไฮดรอลิคส่วนใหญ่รับอุณหภูมิได้ในระหว่าง -40องศาเซลเซียสถึง +100องศาเซลเซียส แต่มีสายบางชนิดสามารถรับอุณหภูมิได้สูงถึง +121องศาเซลเซียสเช่นสายไฮดรอลิคที่มีลวดถักเรียง 4-6ชั้น มาตราฐาน SAE สำหรับเครื่องจักรกลหนัก แต่อุณหภูมิที่กล่าวมานี้อ้างอิงถึงของเหลวที่เป็นน้ำมันเท่านั้น ถ้าหากเป็นลมหรือไอร้อน ความสามารถรับอุณหภูมิจะต่ำลง

สายไฮดรอลิคส่วนมากได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้กับน้ำมันที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ เช่นน้ำมันไฮดรอลิค น้ำมันหล่อลื่นเป็นต้น แต่น้ำมันเบรคหรือน้ำยาฟรีออนที่ใช้ทำความเย็นจะไม่เหมาะที่จะใช้กับสายไฮดรอลิคทั่วไป ควรเลือกสายยางชนิดพิเศษที่สามารถทนกรดหรือด่างในน้ำยาแต่ละชนิดให้เหมาะสมเพื่อความคงทนและอายุการใช้งานของสาย.

ทางห้างฯมีประสบการ์ณและความชำนาญในการประกอบและคัดเลือกสายให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าแต่ละประเภทมานานกว่า 40ปี นอกจากการประกอบสายไฮดรอลิคแล้ว เรายังเป็นตัวแทนกระจายผลิตภัณฑ์สายไฮดรอลิคและอุปกรณ์ต่างๆไปยังตัวแทนจำหน่ายในจังหวัดต่างๆทั่วประเทศอีกด้วย ดังนั้นลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าสินค้าของเรามีประสิทธิภาพเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าแต่ละประเภทด้วยราคายุติธรรม.